โครงงานคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ประเภท
2
ชื่อโครงงาน รูปทรงของถ่านกับความทนทานที่คุ้มค่า
ชื่อผู้จัดทำโครงงาน 1. เด็กหญิงชลลดา พินิจ
2. เด็กหญิงสุธาสินี นิกรพันธุ์
3.
นางสาวสิรินธร เอียดซัง
ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3
ครูที่ปรึกษา 1. คุณครูชลิตตา สีเสือ
2.
คุณครูบังอร สวนพลู
สถานศึกษา วัดเขียนเขต
ปีการศึกษา 2557
บทคัดย่อ
โครงงานเรื่อง รูปทรงของถ่านกับความทนทานที่คุ้มค่า
เกี่ยวกับการทำถ่านอัดแท่งและพื้นที่ผิวและปริมาตรของรูปทรงกระบอก
ปริซึมสามเหลี่ยม ปริซึมสี่เหลี่ยม
ปริซึมห้าเหลี่ยมและปริซึมหกเหลี่ยม โดยใช้วิธีการคำนวณหาพื้นที่ผิวและปริมาตรในการอัดแท่งของถ่านแล้วนำมาทดลองเผา
เพื่อศึกษาว่าถ่านอัดแท่งรูปทรงใดสามารถติดไฟได้นานและทนทานมากกว่า โดยมีจุดมุ่งหมายในการศึกษาเพื่อ
1. เพื่อนำเศษถ่านหลังจากการเผามาทำให้เกิดประโยชน์และเพิ่มคุณค่าของถ่าน
2. เพื่อคำนวณหาพื้นที่ผิวและปริมาตรของทรงกระบอก
ปริซึมสามเหลี่ยม ปริซึมสี่เหลี่ยม
ปริซึมห้าเหลี่ยมและปริซึมหกเหลี่ยม
3. เพื่อเปรียบเทียบความทนทานของถ่านที่อัดตามรูปทรงที่แตกต่างกัน
จากการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้
ผลการศึกษา พบว่า
เปรียบเทียบพื้นที่ผิวของทรงกระบอก
ปริซึมสามเหลี่ยม ปริซึมสี่เหลี่ยม
ปริซึมห้าเหลี่ยมและปริซึมหกเหลี่ยม เมื่อปริมาตรเท่ากัน พบว่า ความสัมพันธ์ของพื้นที่ผิวระหว่างปริซึมกับทรงกระบอก
ที่มีปริมาตรเท่ากัน พบว่า ปริซึมสามเหลี่ยมมีพื้นที่ผิวมากที่สุด รองลงมา คือ ปริซึมสี่เหลี่ยม ปริซึมห้าเหลี่ยม และปริซึมหกเหลี่ยมตามลำดับ
ในส่วนของพื้นที่ผิวของทรงกระบอก พบว่า ทรงกระบอกที่มีรัศมี 3.75 เซนติเมตร มีพื้นที่ผิวมากที่สุด รองลงมา คือ
ทรงกระบอกที่มีรัศมี 2.25 เซนติเมตร และ
ทรงกระบอกที่มีรัศมี 2.9 เซนติเมตร ตามลำดับ
การเปรียบเทียบระยะเวลาการเผาไหม้ของถ่านอัดแท่ง
รูปทรงกระบอก ปริซึมสามเหลี่ยม ปริซึมสี่เหลี่ยม
ปริซึมห้าเหลี่ยมและปริซึมหกเหลี่ยม
เมื่อปริมาตรเท่ากันและพื้นที่ผิวต่างกัน
พบว่า ระยะเวลาการเผาไหม้ของถ่านอัดแท่งไม่เท่ากัน ถ้าถ่านอัดแท่งที่มีพื้นที่ผิวมากจะมีการเผาไหม้ได้เร็วกว่าถ่านอัดแท่งที่มีพื้นที่ผิวน้อย
